หลายครั้งที่คนเรามักหลงลืมอะไรไปกับความสมัยใหม่ ยอมทิ้งทุกอย่างที่ว่าล้าสมัย แต่รู้มั้ยคะว่า❓ ยิ่งเก่าก็ยิ่งมีคุณค่า อย่างที่ เพตรา นครสีกุหลาบ?ที่หลับใหลมาอย่างยาวนาน แต่ในวันนี้‼️ เขาได้กลับมาเผยความยิ่งใหญ่สู่สายตาสาธารณะชนอีกครั้งแล้วล่ะค่ะ ไปชมพร้อม ๆ กันนะคะ?
?นครเพตรา (Petra) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของประเทศจอร์แดน?? ในอดีตที่นี่เคยรุ่งเรื่องมาก เป็นศูนย์กลางทางการค้าขนาดใหญ่ สร้างความมั่งคั่งให้แก่ชาวเมือง จนกระทั่งใน ?ปีค.ศ. 363 ได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น อาคารบ้านเรือนพังทลายลง? ประกอบกับการเปิดเส้นทางการค้าทางทะเล? ทำให้ชาวเมืองละทิ้งเพตรา เหลือทิ้งไว้แต่ความทรงจำ?
⏰กาลเวลาผ่านไป จนในที่สุดเมื่อประมาณปีค.ศ. 1812 ?♂️นักเดินทางชาวสวิตนามว่า “โยฮานน์ ลุดวิก เบิร์กฮาร์ด” กำลังเดินทางจากจอร์แดนไปอียิปต์ และได้ค้นพบซากปรักหักพังของเมืองนี้เข้า สร้างความสนใจให้กับคนทั่วโลก ?โดยเฉพาะ ?จิตรกรชื่อดังอย่าง “เดวิด โรเบิร์ตส์” ได้วาดภาพ?️นครศิลาโบราณอันยิ่งใหญ่ที่ถูกลืมนี้ ยิ่งโหมกระแสการท่องเที่ยวในดินแดนตะวันออกกลางกลับมาอีกครั้ง?
?เมืองนี้ถูกทิ้งร้างมานานกว่า 700 ปี ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของหุบเขา?️ วาดี มูซา หรือ หุบเขาโมเสส บริเวณทางเข้าไปยังเมืองเป็นซอกเขาที่เรียกว่า “ซิค (Siq)” ทอดยาวคดเคี้ยวไปบนเส้นทางที่พาดผ่านถึงใจกลางเมือง เป็นดั่งฉากหน้าที่นำพาคุณได้เข้าไปเจอสิ่งมหัศจรรย์✨
เข้ามาสู่มหานครเพตรา หลายคนเป็นต้องตื่นตาตื่นใจ?กับประติมากรรมที่ถูกสรรสร้างขึ้นจากบรรพบุรุษในอดีต แกะสลักภูเขาเป็นเสา บานประตู และภาพประดับอย่างสละสลวย? ผสานเข้ากับความสวยงามที่ธรรมชาติปรุงแต่งอย่างกลมกลืน ?ลมได้พัดพาทรายมาปกคลุมย้อมเมืองให้เป็นสีกุหลาบ? งดงามน่าอัศจรรย์ จนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก?เมื่อปี ค.ศ. 1985 และได้รับการขนานนามว่า ✨ “สิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง”✨